ฟัง ฝึก เล่น สามคำนี้ผมไม่ได้คิดขึ้นมาเอง ผมได้รับการอบรมมาจากอาจารย์ของผม คุณอานนท์ ศิริสมบัติวัฒนา หรืออาจารย์น้อย ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
อาจารย์น้อยบอกว่าถ้าอยากเล่นกีตาร์ให้เก่ง ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ "ฟังเยอะ ๆ" เพราะการฟังเป็นการเติม input ให้สมองและจิตวิญญาณ เราจำเป็นต้องมีตัวอย่างไว้ศึกษาว่าสำเนียงกีตาร์ที่ดีนั้นเป็นอย่างไร แล้วมีใครบ้างที่น่าฟัง (อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลว่าจะเลือกฟังใคร) และที่จริงแล้วเราควรจะฟังทุกเครื่องมือ ไม่ใช่แต่เพียงกีตาร์เท่านั้น เมื่อเราฟังมากพอที่จะตัดสินใจได้ว่าเราชอบใครและเลือกที่จะเอามาเป็นแบบอย่างในการฝึกฝน ก็จะถือได้ว่าเรามีแนวทางที่จะนำพาเราไปสู่จุดที่เราฝันได้แล้ว
ประการต่อมาที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ "ฝึกเยอะ ๆ" แน่นอนครับ อยากเก่งแต่ไม่ฝึกฝนก็คงไม่มีวันเก่ง แต่การจะฝึกเยอะ ๆ ได้นั้น ก็ต้องมาจากการฟังเยอะ ๆ อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว เพราะการที่เราฝึกโดยที่เราไม่ได้ฟังมาก่อนนั้น "เป็นไปไม่ได้" แม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่าเป็น "มวยวัด" ไม่ได้ร่ำเรียนที่ไหนมา ก็ยังต้องฟังคนอื่นมาเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานว่าลูกโซโล่ลูกนี้เล่นแล้วคนอื่นเขาชอบกัน เล่นแล้วฟังดูเก่ง ฉันจึงควรเล่นลูกนี้กับเขาบ้าง เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า "ฟังเยอะ จึงฝึกได้เยอะ"
ประการสุดท้ายที่สำคัญที่สุด คือ "เล่นเยอะ ๆ" อยากจะเป็นนักดนตรีแต่ไม่ได้เล่นดนตรี แล้วมันจะเป็นนักดนตรีได้อย่างไร มันเป็นเหตุผลที่ใครก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก เราจะฝึกไปเพื่ออะไร ถ้าฝึกแล้วไม่ได้ "ปล่อยของ" มันต้องโชว์ มีดีต้องเอามาอวดกันด้วยจิตวิญญาณของนักดนตรีที่อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ใช่มาอวดเก่งใส่กันแบบอีโก้ล้วน ๆ การที่เราเห็นนักดนตรีคนหนึ่งกำลังเล่นอยู่นั้น เราควรมองเขาด้วยความรู้สึกที่ชื่นชม และให้เกียรติ เพราะเราไม่รู้หรอกว่านั่นอาจจะเป็นวันแรกที่เขาเริ่มเล่นดนตรี ภายใต้เสียงดนตรีที่เขาเล่นออกมานั้นมันแฝงไปด้วยพลังแห่งจินตนาการหรือจิตวิญญาณอันแรงกล้ามากน้อยเพียงใด สิ่งเดียวที่เราควรทำคือ "ชื่นชมยินดีกับเขา" เพราะเขาคนนั้นกำลังยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของการเป็นนักดนตรี คือ "การเล่นดนตรี"
คุณจะไม่มีวันเล่นดนตรีได้ถ้าคุณไม่ฝึก และคุณจะไม่มีวันฝึกได้ถ้าคุณไม่ฟัง
สามคำที่อาจารย์น้อยสอนมานั้น ผมจะไม่ีมีวันลืม ทุกวันนี้ผมยัง ฟัง ฝึก เล่น อยู่เสมอ เพราะผมเชื่อว่านี่คือ "คุณสมบัติของนักดนตรีที่ดี"
แด่อาจารย์น้อย อานนท์ ศิริสมบัติวัฒนา
อาจารย์น้อย อานนท์ ศิริสมบัติวัฒนา นั่งตรงกลาง
ผมนั่งอยู่ด้านซ้ายของอ.น้อย (ด้านขวาของคุณ) ที่หล่อ ๆ ใส่แว่นนั่นแหละ !
จับคอร์ดคุยกัน
วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วิธีโซโล่แจ๊สกีตาร์แบบ outside ตอนที่ 1
1. วิธีคิดในเชิงฮาร์โมนี่ (Harmonic Thinking)
เป็นวิธีทั่วไปที่นักโซโล่หลายคนใช้ แต่ว่าใครจะใช้ฮาร์โมนี่แบบไหนนั้นต้องดูกันอีกที ผมขอให้ไอเดียง่าย ๆ สำหรับผู้กำลังเริ่มต้นจะ out อย่างนี้ครับ
1.1 การใช้ 3rd Relation Harmony ในการโซโล่ก็เป็นไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจ เช่น เวลาเห็นคอร์ด Cm7 ให้เรามองไปที่คอร์ด Emaj7 (หรือ relative major นั่นแหละครับ) แล้วทำเป็น Emaj75 แล้วใน Emaj75 เนี่ย มี Arpeggios ของคอร์ดอื่น ๆ อีกพอสมควรเลยครับ เช่น Am75 , G หรือ G9 , Dm7 , F หรือ F9 เป็นต้น คอร์ดเหล่านี้คุณสามารถเล่น arpeggio ของมันได้ทั้งหมดเลยในขณะที่คอร์ดแช่อยู่ Cm7 ดูตัวอย่าง
หรือแทนที่จะใช้โหมด C Dorian หรือ C Aeolian คุณ John Coltrane ก็จะใช้ E Lydian Augmented
ในทางกลับกัน John Coltrane จะมองคอร์ดที่เป็น relative minor เวลาเห็นคอร์ดที่เป็น major เช่น ใน Fmaj7 เขาจะมองเป็นคอร์ด Dm7 แล้วเล่นเป็น Dm(maj7) , Dm13 หรือไมเนอร์อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ Dm75
1.2 อีกวิธีหนึ่งที่ผมใช้อยู่บ่อย ๆ ก็คือ การนำ ii - V Lines มาใช้ โดยที่ผมจะพยายามสร้างมันขึ้นมาเอง ถึงแม้ว่าในท่อนที่กำลังโซโล่นั้นมีอยู่เพียงหนึ่งคอร์ดเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น มีคอร์ด Emaj7 อยู่ 4-5 บาร์ ผมจะโซโล่ใน Emaj7 สัก 3 บาร์ พอถึงบาร์ที่ 4 ผมจะใช้ ii - V Lines ใน parallel key ของ Emaj7 (ซึ่งก็คือการยืมคอร์ด ii - V ใน Em7 มาใช้นั่นเอง) ดังนั้นผมจึงเล่นโหมดในคอร์ด Fm75 ไป B7alt. แล้วกลับมา Emaj7 ในบาร์ที่ 5 โดยโหมดที่ใช้นั้นคือ F Locrian2 ไป B Super Locrian นั่นเองครับ ถ้างงก็ดูตัวอย่างครับ
หรือบางทีผมอาจมองแค่คอร์ดห้าเพียงอย่างเดียวก็ได้ เช่น มี Emaj7 อยู่ 4 บาร์ ผมจะใช้ E Ionian ในบาร์แรก พอบาร์ที่ 2 ผมจะเอาท์ไปเล่น B Super Locrian แล้วกลับมา E Ionian ในบาร์ที่ 3 แล้วบาร์ที่ 4 ก็เอาท์ไป B Super Locrian อีก... ดังตัวอย่างนี้ครับ
หรือถ้าอยากเล่น E Ionian สัก 2 บาร์ แล้วมาเล่น B Super Locrian อีก 2 บาร์หลังก็ไม่แปลกครับ เพราะมันคือการโซโล่แบบ outside เพียงแต่หาวิธีกลับมาคีย์เดิมให้เนียน ๆ แค่นั้นเอง ลองมาดูตัวอย่างสักนิดดีกว่า
ยังมีอีกนะครับ ไอเดียเรื่องการโซโล่แบบ outside เนี่ย มีวิธีมองอีกหลากหลายและซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้เอาแค่นี้ก่อน...
โปรดติดตามตอนต่อไป
วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การใช้โหมด (ตอนที่ 4)
วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
การใช้โหมด (ตอนที่ 3)
โหมดที่ใช้ในกลุ่มคอร์ด Minor 7 5
โหมดที่ 2 ของ Harmonic Minor Scale ใช้กับคอร์ด m75 ที่เป็น ii มุ่งหน้าไปหา V เช่น Cm75 – F79 – Bm7 เป็นต้น เวลาใช้โหมดนี้จะทำให้เกิดเสียงที่ต่อเนื่องไปยังคอร์ด V ได้อย่างนุ่มนวลทีเดียว เพราะตัวโน้ต 6 (โน้ตตัว A) นั้นจะกลายเป็นโน้ตคู่ 3 ของคอร์ด V (F79) พอดี เสียงที่ไล่ไปมาจึงไม่กระโดดจนต้องเงี่ยหูฟัง ที่สำคัญ โหมดที่ผมใช้สำหรับ ii – V – I Progression นั้น ผมจัดไว้ดังนี้ครับ
โหมดที่ 6 ของ Melodic Minor Scale ใช้กับคอร์ด m75 ที่เป็น ii มุ่งหน้าไปหา V ผมเป็นขาประจำโหมดนี้ครับพี่น้อง เวลาผมเล่นผมจะใช้หลักการที่เรียกว่า Minor Third Away มาใช้ กล่าวคือ เวลาผมเห็นคอร์ด ii ซึ่งในที่นี้คือ Cm75 ผมจะเล่น C Locrian 2 ซึ่งก็คือ E Melodic Minor นั่นเอง (โหมดที่ 6 ใน E Melodic Minor Scale คือ C Locrian 2) แล้วเมื่อผมเห็นคอร์ด V ในที่นี้คือคอร์ด F759 ผมจะเล่น F Super Locrian ซึ่งก็คือ G Melodic Minor จะเห็นว่าจาก E Melodic Minor มายัง G Melodic Minor นั้นห่างกันหนึ่งเสียงครึ่ง หรือห่างกันเป็น Minor Third และเมื่อผมเล่น Lick ใด ๆ ใน E Melodic Minor แล้ว ผมก็จะเล่น Lick นั้นอีกครั้งใน G Melodic Minor เพียงแค่ผมเลื่อนตำแหน่งเท่านั้นเอง ลองดูตัวอย่าง
ใช้ได้ทั้งกับคอร์ด m7 5 ที่เป็น ii ส่งไปหา V หรือเป็นคอร์ด vii ที่แช่ไว้นาน ๆ ไม่ต้องส่งไปหา V ก็ได้ ลองฟังดูครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)